ผู้มีบุญ

วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556

203 พระนางมาริษาเทวี ( มนสาเทวี )...บุตรีแห่งองค์ศิวะเทพ...

พระนางมาริษาเทวี ( มนสาเทวี )...บุตรีแห่งองค์ศิวะเทพ...

พระแม่สุมนาเทวี นางนาคในพระพุทธศาสนาที่ผู้บูชาพญานาคควรควรรู้จัก


นางนาค กัญญาสุมนาเทวี.......


องค์พระแม่นาคิน หรือพระแม่สามโลก

 " โอม ศรีมาตา มัลชา เดวี "


เทพเทวีแห่งงู....

บางคัมภีร์ระบุว่าพระศิวะมีลูกสาวองค์เดียวคือพระนางมาริษาหรือมนสา
เทวีอิตถีเทพผู้เป็นที่กล่าวขวัญกันว่างดงามเป็นยิ่งนักแต่ทว่าในคัมภีร์ก็
กล่าวว่าพระธิดาองค์นี้จะประสูติจากพระมเหสีองค์ใดของพระศิวะก็มิอาจ
ทราบได้เพราะมิได้ปรากฏหลักฐานอันใดจึงมีการสันนิษฐานกันว่าอาจ
จุติมาจากการที่พระศิวะทรงนิรมิตเสกสรรขึ้นมาเองก็เป็นได้และไม่มีทาง
ที่พระนางมาริษาจะเป็นธิดาของพระศิวะที่ประสูติจากพระนางปาราวตี
หรือพระแม่อุมาเพราะมีเรื่องร่ำลือกันว่าพระนางมาริษาไม่ค่อยถูกชะตา
กับพระอัครมเหสีของผู้เป็นพระบิดาเท่าใดนักพระนางมาริษากับพระ
นางปาราวตีมีเรื่องขัดแย้งกันบ่อยๆจนฝ่ายอ่อนเยาว์กว่าได้ตัดสินใจเสด็จ
ลงมาประทับบนโลกและสถิตย์อยู่ในฐานะเทพนารีที่ประทานพรต่อ
มนุษย์จึงมีผู้คนนิยมสักการะบูชากันไม่น้อยในเวลาต่อมาในบางคัมภีร์
ก็ยังระบุว่า พระศิวะมีลูกสาวอีกองค์หนึ่งคือพระนางเนตาเทวีและก็มิ
ได้บ่งบอกไว้เช่นกันว่าพระมารดาของพระนางเนตาเทวีคือใคร
กันแน่แต่ถึงอย่างไรเรื่องราวของพระนางเนตาเทวีก็มิค่อยปรากฏบทบาท
ใด ๆ มากนักในแวดวงเทพเทวะ...








ตามประวัติเดิมนั้น นางมนสาเทวี ไม่เป็นที่โปรดปราณของพระนาง
ปราวตีนักด้วยเหตุนี้เธอจึงเสด็จสู่พื้นล่างบนโลกมนุษย์กับลูกสาวพระศิวะ
อีกพระองค์หนึ่งคือนาง เนตา เมื่อลงมาสู่โลกมนุษย์พระนางมีความใฝ่ฝัน
ว่าอยากจะให้โลกได้บูชาพระนางเหมือนกัน
เรื่องเล่าสืบกันมาว่า จานนท์ ซึ่งเป็นนายพานิชน์แห่งจำปาก เป็นผู้ซึ่ง
นับถือพระศิวะและพระนางปราวตีเป็นที่สุด พระนางมนสาเทวี พยายาม
ทุกวิถีทางที่จะเปลื่ยน
ความตั้งใจของจานนท์ แต่ก็ไม่สำเร็จ ด้วยความร่ำรวยของจานนท์ได้
สร้างสวนดอกไม้ขึ้นเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อน นางมนสาเทวีได้สั่งให้งู
บริวารทั้งหลายเข้าไปทำลายสวนดอกไม้นั้นเสีย ด้วยผลบุญที่จานนท์
มั่นคงในพระศิวะเทพจนเป็นที่โปรดปราณพระเป็นเจ้าจึงได้ประทาน
มนตราลึกลับให้บทหนึ่งเพื่อใช้ในการชุบสิ่งที่ตายแล้วให้ฟื้นได้และ
ด้วยมนตร์บทนี้เองที่ทำให้ดอกไม้ทั้งหลายเบ่งบานในสวนอีกครั้ง
นางมนสาเทวีไม่สิ้นความตั้งใจ ใช้มายาและมนตราแปลงร่างเป็นหญิง
สาวสวยเพื่อให้จานนท์หลงรัก จนในที่สุดนางก็ล้วงเอาความลับแห่งมน
ตราในการชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นได้สำเร็จและคืนร่างเดมบอกกับจานนท์
ว่า ให้กลับใจมาบูชานางเสีย แล้วจะประสบความสำเร็จและได้จากจานนท์
ไปในที่สุด เมื่อมนตราลึกลับได้หลุดจากปากจานนท์ไปแล้วย่อมใช้กับจา
นนท์ไม่ได้ผลอีกต่อไป





การดื้อรั้นของจานนท์ เป็นเหตุให้ลูกชายทั้ง 6 ถูกงูกัดตาย และทุกครั้ง
ก่อนลูกแต่ละคนจะตาย จานนท์ได้ยินเสียงกระซิบที่ข้างหูว่า ให้กลับใจมา
นับถือนางเสีย แต่เขาก็ยังดื้อรั้น ครั้งหนึ่งจานนท์ได้อาศัยเรือสินค้าเดิน
ทางกลับบ้าน ระหว่างทางนั้น นางมนสาเทวีได้บัดาลให้เกิดมรสุมใหญ่
เรือแตกอับปางจานนท์ได้สวดมนตร์ถึงพระนางปราวตี พระเทวีได้
เสด็จมาช่วยเหลือจานนท์ นางมนสาเทวีได้ตัดพ้อกับพระศิวะเทพ
ผู้เป็นบิดาว่าการที่พระมหาเทวีมาช่วยเหลือนั้นไม่ยุติธรรมต่อนาง และ
ขอให้พระศิวะนำพระนางปราวตีกลับวิมานเสีย อย่าได้มาเกี่ยว
ข้องกับนางเลย พระศิวะเลยต้องทำตามคำขอร้องของพระธิดา
อันที่จริงนางมนสาเทวีไม่มีเจตนาจะฆ่าจานนท์ จึงเนรมิตปัทมอาสน์
บัลลังก์ดอกบัวรับเอาจานนท์ไว้แต่จานนท์รู้ว่าเป็นของนางมนสาเทวีจึงไม่
ยอมรับไว้ แต่นางก็บันดาลให้จานนท์ถึงฝั่งโดยปลอดภัย จานนท์สูญเสีย
ทรัพย์สินทุกอย่างจากเหตุเรือล่มครั้งนั้นได้เดินทางไปอาศัยอยู่กับเพื่อน
แต่พอรู้ว่าเพื่อนบูชานางมนสาเทวีก็ออกจากบ้านของเพื่อนไปโดย
ไม่ได้ร่ำลา ชีวิตพเนจรของจานนท์ลำบากมาก อดอยากจนถึงต้องกินกาบ
กล้วยเพื่อประทังชีวิตให้อยู่รอดไปวันๆหนึ่ง













แม้ว่านางมนสาเทวีจะเสด็จมาสู่ภาคพื้นดิน แต่ก็ยังมีฤทธิ์สามารถ
ขึ้นสวรรค์เหมือนเดิมทุกประการ วันหนึ่งนางไปเยี่ยมเพื่อนที่เป็นชาว
สวรรค์ด้วยกัน เพื่อนทั้ง 2 ของนางมนสาเทวีบอกว่าจะลงไปจุติเพื่อช่วย
ให้การกิจของนางได้สำเร็จ คนหนึ่งจะไปถือกำเนิดเป็นบุตรชายของ
จานนท์ชื่อ ลักษมินทร อีกคนหนึ่งจะไปเกิดเป็นลูกสาวของเพื่อนพ่อ
ค้าของจานนท์ชื่อว่า นาง เพลุหา และเมื่อทั้ง 2 เติบโตจะได้แต่งงานกัน
โหรทำนายไว้ว่า วันแต่งงาน ลักษมินทรจะถูกงูกัดตาย ดังนั้นเพื่อความ
ไม่ประมาทจานนท์ได้สั่งให้ช่างสร้างบ้านขึ้นหลังหนึ่งซึ่งไม่มีรูในบ้านเลย
แต่ช่างถูกนางมนสาเทวีข่มขู่ จึงได้สร้างบ้านเปิดรูเท่าเส้นผมไว้และเอาผง
ถ่านอุดไว้ พร้อมกันนั้นได้กำชับเวรยามตรวจตราเหนียวแน่นและโรยผง
พิษหมายเด็ดชีพงูไว้รอบๆบริเวณบ้าน และด้วยรูนี้เองทำให้งูบริวารของ
นางมนสาเทวีแทรกเข้ามาในบ้านหลังดังกล่าว ขณะที่ ลักษมินทรหลับอยู่
นางเพลุหา เห็นงูเข้ามาในห้องก็ทำทีเป็นป้อนนมและอาหารให้กับงู เมื่องู
เผลอก็เลื่อนบ่วงกระตุกงูขึ้นแขวนกับขื่อคา 2-3ตัวแต่นางโดนพิษงูเข้าไป
เลยทำให้นัยน์ตามัวเลยหลับไปในที่สุด ดังนั้นลักษมินทรก็เลยถูกงูเด็ดชีพ
ตามที่โหรทำนายไว้ทุกอย่าง
คนที่ถูกงูกัดตายนั้นไม่นิยมเผา แต่นิยมเอาใส่แพลอยน้ำไป และด้วย
ความที่นางรักลักษมินทรมาก นางตัดสินใจที่จ
ะนั่งอยู่ในแพกับสามีด้วย
ไม่ว่าญาติผู้ใหญ่ เพื่่อนฝูง พี่น้องจะทัดทานเท่าไรก็ไม่เป็นผล
ก่อนที่แพจะออกจากฝั่ง นางได้สั่งให้แม่จุดตะเกียงขึ้น
ที่ห้องพักและปิดประตูห้องให้มิดชิด ตราปใดที่ตะเกียงยังสว่างอยู่ย่อมมี
ความหวังว่า ลักษมินทรจะฟื้นขึ้นมาแพศพของลักษมินทรล่องลอยไป
ตามลำน้ำนานถึง 6 เดือน โดยที่สภาพศพไม่เน่า
เปื่อย วันหนึ่งแพได้มาจอดที่ริมตลิ่งแห่งหนึ่ง หล่อนเห็นสาวคนหนึ่งกำลัง
ซักผ้า แต่ลูกชายร้องไห้งอแงห้ามปรามเท่าไรก็ไม่ยอมหยุด นางก็เลยเค้น
คอลูกชายจนแน่นิ่งและหมดสติไป นางไม่ได้แสดงอาการสะทกสะท้านใดๆจนกระทั่งงานเสร็จ นางได้เอาน้ำพรมลงบนตัวลูกชายและพร่ำบ่นมนตรา
ไม่กี่คำ ลูกของนางก็ฟื้นได้ดังเดิมนางที่นั่งซักผ้าริมตลิ่งผู้นี้ หาใช่ใครอื่น
แต่ เป็นนางเนตาลูกสาวอีกคนหนึ่งของพระศิวะเจ้าที่ลงสวรรค์มาพร้อมกับนางมนสา เทวีนั่นเอง นางเพลุหาเห็นเช่นนั้นก็อ้อนวอนขอให้นางช่วยชุบ
ชีวิตสามี นางเนตามีข้อแม้ว่านางเพลุหาต้องขึ้นสวรรค์ไปพร้อมกับตนและ
รำถวายให้กับทวยเทพชมก่อนจนทวยเทพประทานพรให้นางถึงจะ
ชุบชีวิตสามีให้นางได้ ด้วยความที่อดีตชาติของนางเพลุหาเป็นนางอัปสร
มาก่อนจึงรำได้อย่างงดงามเป็นที่จับจิตจับใจของทวยเทพ
ฝ่ายทวยเทพได้ประทานพรให้ แต่นางมนสาทวีไม่ยอมบอกว่านางเพลุหาต้องไปเปลี่ยนความคิดให้จานนท์มานับถือนางเสียก่อน ดังนั้นนาง
เพลุหาจึงต้องกลับจำปากนครเพื่อไปบอกกับพ่อสามีตน ในที่สุด
จานนท์ก็ยอมบูชานางมนสาเทวีอย่างเสียมิได้ด้วยตำนานนี้ทำ
ให้เกิดความเชื่ออย่างหนึ่งที่ติดมาจนถึงทุกวันนี้คือ การใช้มือซ้ายในการ
ถวายบูชานางมนสาเทวี เพราะมือขวาของจานนท์นั้นใช้
ถวายและบูชาพระศิวะและพระนางปราวตีเท่านั้นขณะเดียวกันก็ใช้มือซ้าย
โยนดอกไม้ถวายของบูชากับนางมนสาเทวีอย่างเสียมิได้โดยที่สาย
ตาก็ยังไม่ยอมเหลือบมองแม้แต่เทวรูปของนางมนสาเทวีเลยแม้แต่น้อย...


ข้อมูลโดย
กุหลาบขาว




Naga Kanya นาค กัญญา เป็นชื่อย่อมาจาก สุมนา นาค กัญญา












วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2556

202 เหล็กไหลปรอท ปู่พรมมา จากดอยอินทนนท์

เหล็กไหลปรอท ปู่พรมมา จากดอยอินทนนท์

ข้อมูลจาก มงคลธาตุ.คอม

ปรอท ตามภูมิปัญญาโบราณ ปรอท ถือว่าเป็นธาตุอาถรรพ์ มีชีวิต มีจิตวิญญาณ
และ ท่านที่มีภูมิปัญญาได้เรียนรู้และศึกษาธาตุปรอทนี้ จนได้พบกับความมหัศจรรย์ของธาตุปรอทนี้ ว่าเป็นยารักษาโรคได้ และทั้งยังนำมาทำเป็นเครื่องรางของขลังได้อีกด้วย ด้วยฤทธิอำนาจของธาตุปรอท ที่สามารถเคลื่อนย้ายหรือลื่นไหลตัวเองไปตามที่ต่างๆ ได้ คนโบราณที่มีภูมิปัญญาด้านธาตุปรอทนี้เชื่อกันว่า คนที่ได้พกพาธาตุปรอทติดตัวไว้จะทำให้แคล้วคลาด ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวงได้ ท่านผู้มีวิชาเล่นแร่แปรธาตุ หรือพระอาจารย์ที่มีวิชาอาคมและ พลังจิตแก่กล้า ต่างก็นำเอาปรอทนี้มาเป็นส่วนผสมในวัตถุมงคลของท่านทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น เบี้ยแก้ ปรอทกรอ ปรอทเพชร เป็นต้น






ดัง ที่กล่าวไว้ข้างต้น ว่าปรอทเป็นธาตุพิเศษชนิดหนึ่ง ที่นำมารักษาโรคได้ และได้มีการรักษากันมาแล้ว ธรรมชาติของธาตุปรอทนั้นจะกินสารพิษและดึงสารพิษมารวมไว้กับตัว ธาตุปรอทตามธรรมชาติที่คนโบราณนำมาใช้กันนั้นจึงยังมีพิษอยู่ ก่อนที่จะเอามาใช้ได้จะต้องฆ่าพิษของธาตุปรอทออกก่อน จึงนำมารักษาโรคได้และวิธีหนึ่งของผู้ที่มีภูมิปัญญาด้านธาตุปรอทนั้น
ที่จะนำมารักษาโรคต่างๆ ได้คือ นำปรอทเข้าตัว การนำปรอทเข้าตัวเชื่อกันว่า ปรอทเป็นธาตุที่ชอบกินและดึงเอาสารพิษต่างๆมาไว้ที่ตัวของธาตุปรอทเอง ด้วยเหตุนี้ ถ้านำธาตุปรอทที่ดับพิษ หรือฆ่าเอาพิษของธาตุปรอทออก แล้ว นำเอาเข้าตัวก็จะทำให้ธาตุปรอทนั้นไปกินและดึงเอาสารพิษต่างๆ ที่อยู่ในตัวของบุคคลนั้นได้ อาทิเช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัสบางชนิด เป็นต้น อีกทั้ง ปรอทยังเป็นยาประเภทยาถ่าย ยาบำรุงกำลัง แก้ปวด ขับปัสสาวะ ปรับปรุงสุขภาพ และรักษาโรคผิวหนังต่างๆ อีกด้วย
การ นำเอาธาตุปรอทเข้าตัว ถือว่าเป็นวิชาโบราณที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากครูอาจารย์ผู้ที่มีภูมิปัญญา ด้านเล่นแร่แปรธาตุ พวกฤาษี พระป่า และท่านที่มีพลังจิตแก่กล้า เป็นต้น






จะขอยกตัวอย่างครูอาจารย์ท่านที่ได้รับการถ่ายทอดวิชา ปรอท คือ พันเอกชม สุคันธรัต ที่ได้การยอมรับว่าท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาต่างๆ จากหลวงปู่เทพ โลกอุดร ท่านพันเอกชม ก็ได้รักษาคนด้วยวิชาธาตุปรอทนี้มาแล้ว โดยนำเอาธาตุปรอท ที่ดับพิษของปรอทออกไปแล้ว นำมาดันเข้าไปบริเวณฝ่ามือ ของผู้ที่ถูกรักษา โดยใช้พลังจิต เป็นสำคัญ ที่จะดันธาตุปรอทเข้าไปในตัวได้...และธาตุปรอทจะเข้าไปดักและกินสารพิษที่ อยู่ในตัวคนๆนั้น
เมื่อดันธาตุปรอทเข้าตัวได้ บริเวณฝ่ามือผู้ที่ถูกดันธาตุปรอท จะมีสีออกดำๆ เป็นวง จากการดันและพลักปรอทเข้าไป...และ อีกวิธีคือ ขี้ปรอทสีดำ ถ้าอยู่ในบริเวณฝ่ามือของ ผู้รักษาจะจับและถูบริเวณที่เป็นโรคและปวดเมื่อยของผู้ป่วยได้...










































วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2556

201 เราจะรู้ได้อย่างว่าเราเคยเกิดเป็นนาค

"เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราเคยเกิดเป็นนาค"
 

ข้อความของ MANENAKA WANGKATEKEAW

นิสัยของพญานาคท่านจะติดตัวเรามาเกิดในชาตินี้ 
ดังนี้ครับ 
เป็น
คนตรงซื่อสัตย์ รักษาสัจจะวาจา 
ไม่โกหกไม่หลอกลวง มีเหตุมีผลดื้อ 
ชอบพิสูจน์ เชื่ออะไรยาก 
ต้องรู้ต้องเห็นจึงจะปักใจเชื่อ 
รักพระพุทธศาสนา 
ใครทำพระพุทธศาสนาเสื่อมเสียจะรู้สึกโกรธ 
มีความโมโหร้ายอยู่ในตัว เป็นต้น


มีความฝันเกี่ยวกับพญานาค

สนใจเรื่องราวของสิ่งเร้นลับต่างๆ อยากพิสูจน์
ถ้าใครมีความเกี่ยวเนื่องยาวนานจะได้พบได้เห็น 
พญานาคที่เกี่ยวข้องกันในภพชาติก่อน
 

เกิดมาชาตินี้จะหน้าตาดี 
มีความรู้มาก ความสามารถพิเศษอย่างใดอย่างหนึ่ง 
ตามแต่ศีลที่บำเพ็ญมา ชอบนั่งสมาธิ 
และนั่งสมาธิได้ดีติดตัวมาจากภพเดิม 
การเกิดเป็นมนุษย์ ต้องบำเพ็ญเพียร รักษาศีล 5000 ปี



 "พญานาค อายุ 1000 ปี" 

จะเข้าสู่วัยเป็นหนุ่มเป็นสาว 
และจะเริ่มเข้าสู่การจำศีลภาวนาค 
พญานาคทุกตน จะมีดวงแก้วประจำตนอยู่ 
ขึ้นอยู่กับว่าเป็นวรรณะใด 
พญานาคจะรอการปรากฎของลูกแก้ว
(สามารถหาข้อมูลสีของลูกแก้วพญานาคได้ตามเว็บทั่วไป)

พญานาคมีนิสัย ทั้งดีและไม่ดี ขึ้นอย่กับนิสัยเดิม 
ใครก็ตามที่มีดวงแก้วของพญานาค ให้บูชาไว้ให้ดีเพราะ
ดวงแก้วนี้เป็นสิ่งล้ำค่ามาก
สามารถบัดดาลได้ตามใจนึก ทั้งทางโลกและทางธรรม 
ขอให้สิ่งที่ขอ อยู่ในศีล5 ไม่ผิดต่อวิบากกรรมของคนๆนั้น



 สาเหตุที่เราเกิดเป็นพญานาคพระพทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่า 
บุคคลบางคนในโลกนี้ ได้ยินได้ฟังว่า นาคมีอายุยืน 
มีวรรณะงาม มีความสุขมาก เขาจึงชอบใจ 
แล้วทำความดีจิตมีความปารถนาว่าเมื่อตายไปแล้ว 
ขอให้เราได้บังเกิดเป็นนาค 

ข้อนี้แลเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้บางคนในโลกนี้เมื่อตายไปแล้ว 
ไปเกิดเป็นนาค















วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2556

200 ที่ระลึก........ จากปู่ศรีสุทโธนาคราช คำชะโนด

ที่ระลึก........  จากปู่ศรสุทโธนาคราช  คำชะโนด












ศาลปู่ศรีสุทโธ






สาธุ...





































ของที่ระลึกจากคำชะโนด

ได้มาจากที่ใต้ต้นไทร วางเรียงกันอยู่บนอิฐและบนพื้นดินคุณนะ-กุ้ง น้องซูม เป็นผู้เก็บมาให้พระปรีชา ...บอกว่าปู่ให้มา
หมายเหตุได้นำมาให้อาจารย์คาพลฯ ดูท่านบอกว่าเป็นเพชรพญานาคราช ซึ่งจะคายไว้ให้กับลูกหลานท่านเท่านั้น
ชิ้นนี้พระปรีชา เก็บได้ใต้ต้นไทร เหมือนกัน


ปู่ให้ไว้เป็นของคู่บารมี




พระอาจารย์ปรีชา