ผู้มีบุญ

วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2555

018 พระสมเด็จผงใบลาน NEW (7 เม.ย.2555)

พระสมเด็จวัดระฆัง เนื้อดำผงใบลานและเหล็กไหล








เมื่อวาน 24 มีนาคม 2555 ผมได้มีโอกาส อันเชิญพระสมเด็จวัดระฆัง เนื้อดำผงใบลานและเหล็กไหลมาบูชา 2 องค์ ด้วยความกรุณาจาก ดร.นนต์ ที่ได้ไปร่วมอันเชิญในครั้งนี้ (นับว่าหายากมากจริง ๆ เพราะไม่ได้มีไว้ให้บูชาทั่วไป) สวยงามมากครับ เป็นบุญที่ได้ครอบครอง สาธุ สาธุ

บทความของ  อาจารย์ไพรพนา   ศรีเสน ๑๒  มกราคม  ๒๕๕๕   
พระสมเด็จผงใบลาน
ค่านิยมในเรื่องของพระสมเด็จเปรียบเสมือนพลังแสงแห่งดวงอาทิตย์ที่ไม่มีวันมอดดับ     ด้วยเหตุนี้เองผมจึงได้พยายามศึกษา  ค้นคว้าหาคำตอบเกี่ยวกับพระสมเด็จในอีกมิติหนึ่งที่มีความหลากหลายอย่างมีองค์ความรู้   โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของการไม่ให้ร้ายต่อผู้อื่นที่เห็นต่าง  ไม่ แข่งขันทางพุทธพาณิชย์แต่จะเป็นทางเลือกให้แก่ผู้มีความศรัทธาในเจ้าประคุณ สมเด็จฯ เป็นประการสำคัญเพื่อต่อยอดพัฒนาศึกษาหาความรู้กันต่อไป   อย่างที่ผมได้เคยเรียนกับท่านผู้อ่านที่ได้ติดตามอ่านบทความของผมมาแล้วว่าสมเด็จฯ  ท่านสร้างพระไว้มากมายหลายร้อยพิมพ์  หลากหลายพุทธลักษณะ   หลากหลายเนื้อ  ทั้งเป็นพิมพ์ที่นิยม และเป็นพระพิมพ์ที่อยู่นอกพิมพ์นิยมในปัจจุบัน    ท้ายสุดก็คือพระทุกพิมพ์ที่ท่านสร้างล้วนมีพุทธคุณ และอิทธิคุณเท่าเทียมกัน   สิ่ง ที่ผมจะเขียนให้ท่านผู้อ่านได้ศึกษา และพิจารณาล้วนมาจากการศึกษา และค้นคว้าจากตำรา และประสบการณ์ของครูบาอาจารย์หลายท่านที่ได้เคยกล่าวมาแล้ว

     ก่อนที่ผมจะนำเสนอเรื่องพระสมเด็จผงใบลานผมได้คัดข้อเขียนบางตอนของ  อาจารย์ตรียัมปวาย   มาให้พิจารณาดังนี้   การสร้างพระของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี     
หนึ่ง  เนื้อผงใบลานเผา  ทำน้อยมากเพราะเปลืองผงใบลาน เจ้าพระคุณจะนั่งจานใบลานตลอดเวลา พอมากๆ เข้าก็เอามาสุมไฟ คนที่เห็นก็ว่าท่านบ้า  เป็นพิมพ์ปรกโพธิ์ มีทั้งโพธิ์เมล็ด และโพธิ์ใบ  ท่านใช้ผสมในพระเนื้อปูนปั้นด้วย     

สอง  เนื้อชานหมาก พระอาจารย์ขวัญ กล่าวว่า ท่านสร้างพระเนื้อชานหมาก คู่กับเนื้อใบลานเผา  แต่เนื้อชานหมาก เป็นพิมพ์ทรงพระประธาน  (ทั้งสองเนื้อ  เจ้าพระคุณได้ถวายรัชกาลที่ ๕  และได้ทรงแจกข้าราชการในปี ๒๔๑๖  ปีระกาป่วงใหญ่ หลังสมเด็จมรณะ ๑ ปี)    
สาม  เนื้อปูนน้ำมัน  เหมือนพิมพ์ทรงนิยม แต่เนื้อฉ่ำคล้ายมีน้ำมันอยู่ แต่หาหลักฐานการสร้างไม่ได้   ทั้ง หมดนี้ถือเป็นคำบอกเล่าถึงพระพิมพ์ต่าง ๆ นอกจากพิมพ์นิยมในปัจจุบัน เพราะยังมีครูบาอาจารย์ และนักนิยมพระสมเด็จในสมัยโบราณหลายท่านแย้งว่าท่านได้สร้างพระผงใบลานพิมพ์ ใหญ่ด้วย  ประกอบกับพระสมเด็จผงใบลานที่เป็นตัวอย่างในข้อเขียนนี้เป็นพระสมเด็จผงใบลานพิมพ์ใหญ่เช่นกันที่ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี    ข้อมูล ต่าง ๆ เหล่านี้ที่ต้องนำมาพิจารณาประกอบการศึกษา และค้นคว้า
พระ สมเด็จเนื้อผงใบลานสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี ได้จัดสร้างประมาณ ปี พ.ศ. ๒๔๐๕-๒๔๐๖ ในสมัยสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔  (ก่อนที่ท่านจะได้สมณศักดิ์เป็น  สมเด็จพระพุฒาจารย์  ในปี พ.ศ.๒๔๐๗)  ท่านได้จัดสร้างพร้อมกับพระสมเด็จเนื้อชานหมากที่วัดระฆังโฆษิตาราม  การจัดสร้างในครั้งนั้นจัดสร้างพระสมเด็จเนื้อผงใบลาน และเนื้อชานหมากได้ไม่ถึงร้อยองค์และได้มอบให้แก่พระบรมวงศานุวงศ์   ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และศิษย์ผู้ใกล้ชิดเพียงไม่กี่คน  พระสมเด็จชุดนี้ไม่ได้บรรจุกรุอันเนื่องจากจัดสร้างเป็นการเฉพาะและมีปริมาณน้อยนั่นเอง  พุทธศิลปที่พบจะเป็นแม่พิมพ์สมัยใหม่ในยุคแรก ๆ  ที่เรียกว่าพิมพ์ประธาน (พิมพ์ใหญ่) และพิมพ์ปรกโพธิ์  พิมพ์อื่น ๆ ไม่พบเห็น    การสร้างพระผงใบลานของเจ้าประคุณสมเด็จฯ  เริ่ม จากการที่ท่านนำพระคัมภีร์ใบลานเก่าที่ชำรุด และได้คัดลอกอักขระพระสูตรคาถาแล้ว รวมกับใบลานที่ท่านได้เจียรไว้ นำมาเผาให้เป็นเถ้า  บดให้ละเอียด  ต่อจากนั้นจึงนำมากรองจนเป็นผงฝุ่น  แล้วจึงผสมตามสูตรการสร้างพระสมเด็จของท่านตามสูตรโบราณ   อันได้แก่  ปูนเปลือกหอย  มวลสาร  ผงวิเศษ  น้ำมันทัง น้ำผึ้ง  กล่าว กันว่าพระสมเด็จผงใบลานซึ่งสร้างพร้อมกับเนื้อชานหมากรวมกันนั้นสร้างได้ไม่ ถึงร้อยองค์เพราะเนื่องจากใบลานมีจำนวนไม่มากเมื่อนำมาเผาบดแล้วจะเหลือ เพียงจำนวนน้อย  
การพิจารณาและวิเคราะห์พุทธศิลป์ และเนื้อมวลสาร
                วรรณะองค์พระจะเป็น  สีเทาดำ เนื่องจากผสมกับปูนเปลือกหอย และอีกประการความเข้มของสีมากน้อยขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเป็นสำคัญ เนื้อพระแห้งสนิท  จุดที่ควรพิจารณาเป็นพิเศษได้แก่  เนื้อของพระจะมีความละเอียดมากเนื่องจากผงใบลานผ่านการกรองจนเป็นฝุ่น  ปูนที่นำมาผสมถูกบด  ตำ  อย่างละเอียด  ปรากฏเห็นก้อนมวลสารสีเหลืองนวล  หินสีน้ำตาลออกส้ม  หินอ่อนศักดิ์สิทธิ์สีขาวจากประเทศจีน  ทั้งหยาบและละเอียด  รวม ทั้งปรากฏผงทอง และผงทรายทองกระจายทั่วองค์ถือเป็นหลักสำคัญ คาบไขสีขาวหม่น ๆ ซึ่งจะปรากฏเป็นหย่อม ๆ กระจายอยู่ทั่วไปทางด้านหน้า และมีความชัดเจนมากกว่าด้านหลังนั้นเกิดจากปฏิกิริยาทางธรรมชาติของมวลสาร กับน้ำมันงาหรือน้ำมันมะพร้าวที่ใช้ทาพิมพ์ผ่านกาลเวลามิใช่เกิดจากคราบแป้ง โรยพิมพ์ดังที่หลายท่านเข้าใจ คราบดังกล่าวนี้จะค่อย ๆ ผุดออกมาเป็นไขเคลือบผิว หรือมีลักษณะเป็นขลุยหรือเป็นเกร็ดเล็ก ๆ บาง ๆ หลุดล่อนเองตามธรรมชาติก็ปรากฏ (รายละเอียดและเหตุผลผมได้เขียนให้อ่านไปแล้วในหลักการพิจารณาพระสมเด็จวัด ระฆัง) การยุบตัว และการหดตัวต่างจากพระสมเด็จเนื้อมวลสารโดยทั่วไปด้วยเหตุแห่งเนื้อผงใบลาน ที่มีความละเอียด น้ำมันทัง และน้ำผึ้งที่เป็นตัวประสาร จึงทำให้มีการเกาะยึดได้ดีจึงมีความแกร่งกว่า  ด้านหลังที่พบส่วนใหญ่จะค่อนข้างเรียบหรือมีลักษณะคล้ายสิ่งที่รองรับในขณะผึ่ง  ตาก  มี รอยปูไต่ หรือรอยหนอนด้นแต่ไม่ค่อยชัดเจนมากนัก พุทธศิลปจัดได้ว่าเป็นพิมพ์แบบสมัยใหม่ในยุคแรก ๆ ที่ค่อนข้างมีความสวยงามใกล้เคียงกับพิมพ์ของพระสมเด็จวัดพระแก้ว องค์พระสมส่วนสง่างาม  เส้นสายรายละเอียดชัดเจน การตัดขอบทั้งสี่ด้านค่อนข้างประณีต  สิ่ง ที่น่าพิจารณาอีกประการก็คือการได้พบว่าการจัดสร้างพระสมเด็จเนื้อชานหมาก กับเนื้อผงใบลานเป็นการสร้างในคราวเดียวกันแต่พิมพ์ที่ใช้มีลักษณะต่างกัน  อันเป็นการบ่งบอกถึงอัจฉริยะที่มีความเป็นอิสระในวิธีคิด  ไม่ยึดติด แต่คงไว้ซึ่งการเผยแพร่พุทธศิลปในหลายแนวทาง และหลายรูปแบบของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี  นั่นเอง
 ท้ายสุดขอให้พยายามพิจารณาจากของจริง และเปรียบเทียบกับหลักการทางวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ  ขอให้ท่านผู้ที่มีความศรัทธาได้โปรดสืบค้นกันต่อไป ด้วยจิตใจที่มั่นคงในสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี

 

บทความของ ดร.ณัฐชัย เลิศรัตพล

 พระสมเด็จ เนื้อผงใบราน
พระสมเด็จ เนื้อผงใบราน สายวัง ที่อธิษฐานจิตโดยสมเด็จโต วัดระฆัง ที่พบมีจำนวนการสร้างน้อยมากในแต่ละวาระที่สร้าง

     พระสมเด็จ สายวัง  มีพุทธคุณสุดยอดหรือกล่าวได้ว่าแรงมาก  ความแรงจะมีหลายระดับ  อยู่ที่ผู้ครอบครองจะทราบหรือไม่  มีความแรงระดับมาตราฐาน 1 เท่า, 5 เท่า, 10 เท่า, 30 เท่า, 60 เท่า, 150 เท่า, 250 เท่า และความแรงของพุทธคุณไร้ขีดจำกัด
     พระสมเด็จฯทั่วๆไปที่มีราคาแพงที่อยู่ในมือคนมีอันจะกิน  เกือบทั้งหมดที่ตลาดเล่นหากันจะมีความแรงของพุทธคุณอยู่ที่ ไม่เกิน 10 เท่า(พระเก้ก็มีเยอะเช่นกัน ที่อยู่ในมือท่านมีอันจะกินทั้งหลายเหล่านี้)

1651021 พระสมเด็จ สายวัง เนื้อผสมผงใบราน พ.ศ.2401 มีพลังนุภาพไร้ขีดจำกัด มีสีเทาดำ  สีอ่อนแก่อยู่ที่ช่างสิบหมู่ผสมผงพุทธคุณต่างๆ 

1651022 พระสมเด็จ สายวัง เนื้อผสมผงใบราน พ.ศ.2402 มีพลังนุภาพไร้ขีดจำกัด มีสีเทาดำ  สีอ่อนแก่อยู่ที่ช่างสิบหมู่ผสมผงพุทธคุณต่างๆ 

1651023 พระสมเด็จ สายวัง เนื้อผสมผงใบราน พ.ศ.2409 มีพลังนุภาพไร้ขีดจำกัด มีสีเทาดำ  สีอ่อนแก่อยู่ที่ช่างสิบหมู่ผสมผงพุทธคุณต่างๆ   องค์นี้ด้านหลังจะมีผงทองคำ
คนส่วนใหญ่จะเสาะหาพระสมเด็จ วัดระฆัง ที่อธิษฐานจิตโดยสมเด็จโต วัดระฆัง
1651024 พระสมเด็จ วัดระฆัง ที่เสี้ยนตำราเขียนตำราให้เซียนตำราปฏิบัติตาม  ความลับที่เซียนตำรารุ่นลายครามแนะนำ  ให้ดูเส้น "วาสนา" ซึ่งเป็นเส้นกรอบ(ใกล้ๆแขนองค์พระ)ทางด้านขวามือของท่าน กรอบสี่เหลี่ยมด้านนอกที่ตัดจะอยู่ประมาณข้อศอกขององค์พระ  ดูด้วยตาเปล่าถ้าใช่ "เซียนตำรา" เขาจึงจะหยิบขึ้นมาส่องกล้องกัน ดังเช่น รูปพระกริ่งองค์นี้



2 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เซียนใหญ่ เซียนเล็ก ทั้งหลายกำหนดค่านิยมของพระได้ เเต่สิ่งเดียวที่กำหนดไม่ได้คือความศรัทธา เเละพลาณุภาพ ขอบคุณท่าน ดร. นนต์

Unknown กล่าวว่า...

ผมมี1องค์ครับ "กำลังควาญหาผู้ดูแลรับช่วงต่อ" เนื่องจากเหตุผลทางปัจจัยในการดำเนินชีวิต ท่านใดสนใจ
Inboxมาครัย หรือ0917352824