พญาครุฑ (ปรับปรุงใหม่ 13 ต.ค. 2555)
ได้มีโอกาสอัญเชิญพญาครุฑมาไวัสักการะที่บ้าน คุณปพน (มีสัมผัสพิเศษ) สัมผัสดูแล้ว บอกว่าเหมือนท่านมีชีวิตขาท่านเคลื่อนไหวขยับได้ ร้อนขึ้นหัวมีอาการมึนหัวนิดๆ พบเห็นครั้งแรกก็ถูกใจเพราะอยากได้มานานแล้ว
พญาครุฑนั้นมีผู้กล่าวไว้ว่า ใครมีไว้บูชาจะก่อเกิด อำนาจ วาสนา โชคลาภ เงินทอง เป็นสื่อนำความ เจริญรุ่งเรือง ยศถาบรรดาศักดิ์มาสู่ชีวิตหน้าที่การงาน ครุฑส่งเสริมสงเคราะห์ช่วย จับ จิก ตี จับดวงวิญญาณร้าย สัมภเวสีกินเป็นอาหาร กันเขี้ยวงาอสรพิษ พญาครุฑผู้เป็นใหญ่ในอสรพิษ จึงเหนือเขียวงาพิษร้ายทั้งปวง
พญาครุฑ สร้างสมัย ร.3 พ.ศ.2399 อธิษฐานจิต โดยเจ้าประคุณสมเด็จพูฒาจารย์โต พรหมรังสี
ข้อความของ
จากประสบการณ์ที่ผู้
เขียนพบเห็น ในปัจจุบันครุฑเป็นที่นิยมของนักสะสมและนักบูชาเฉพาะกลุ่ม
กลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักธุรกิจที่มีกิจการห้างฯ ร้านฯ เป็นของตนเอง
ดังนั้นเรื่องเกี่ยวกับ พญาครุฑ ผู้เขียนขอแนะนำเป็นครั้งที่ 2 ว่า ถ้าเปิดบริษัทฯ ค้าขาย ควรมีท่านไว้บูชา ยิ่งเป็นพญาครุฑที่สร้างโดยกลุ่มช่างสิบหมู่และสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี (วัดระฆัง)อธิษฐานจิต หายากยิ่งนัก ใครพบใครเห็นไม่เก็บ ย่อมเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง มีเงินมีทองใช่จะซื้อหาได้ จะต้องประกอบด้วย มีบุญ + โชคดี + เฮง + มีความผูกพันธ์
ปู่บุญสวนทำพิธีปิดตาเบิกเนตร 13 ตุลาคม 2555 |
เหมือนมีชีวิต |
ตํานาน พญาครุฑ
ในตํานานเมืองฟ้าป่าหิมพานต์นั้น
มีเรื่องราวของสัตว์ที่มีอิทธิฤทธิ์มากมายหลายชนิด เช่น ราชสีห์ คชสีห์
อันมีลําตัวเป็นสิงห์แต่มีศรีษะเป็นช้าง กินรี กินนร
และสัตว์แปลกๆอีกมากมาย ในบรรดาสัตว์ทั้งหลายนั้นมี 2อย่างที่นับว่าเป็นเทพ
มีอิทธิฤทธิ์มากคือ พญาครุฑ จ้าวแห่งเวหา อีกหนึ่งคือ พญานาคราช
จ้าวแห่งบาดาล
พญานาคนั้นมีวิมานอันเป็นทิพย์อยู่ในเมืองบาดาล
ส่วนพญาครุฑนั้นก็มีวิมานฉิมพลีอยู่ที่เชิงเขาไกรลาสและได้รับพรให้เป็นอมตะ
ไม่มีศาสตราวุธใดๆสามารถทําร้ายได้ แม้แต่สายฟ้าของพระอินทร์
กล่าวว่าองค์พญาครุฑนั้นมีนามว่า ท้าวเวนไตย เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า
ท้าวสุบรรณ ซึ่งหมายถึง(ขนวิเศษ) มีกายเป็นรัศมีสีทอง
มีเดชอํานาจมากที่สุดในหมู่ครุฑทั้งหลาย อาศัยเกาะอยู่ตามต้นงิ้ว
อาศัยผลงิ้วและนําดอกไม้จากตันงิ้วเป็นอาหารทิพย์
ลูกพญาครุฑจะโตขึ้นนับเวลาอายุเป็นข้างขึ้นข้างแรมตามจันทรคติ
เติบโตด้วยบุญกุศลที่เคยทํามา หากลูกครุฑตนใดที่มีบุญญาธิการมามาก
อํานาจจะบันดาลให้เกิดผลงิ้วทิพย์และน้ำหวานจากดอกไม้มาบําเรอลูกครุฑตน
นั้นๆและลูกครุฑตนดังกล่าวจะจําเจริญวัยได้อย่างรวด
นาคและครุฑต่างเป็นสัตว์ที่คู่กันมาตามตํานาน มีเรื่องราวเล่ากันว่าในขณะที่พระพรหมกําลังสร้างโลกอยู่นั้น พระทักษะปชาบดีได้ยกลูกสาวทั้ง13คนให้ ฤาษีกัสยปะเทพบิดร และเกิดบุตรหลานเป็นจํานวนมาก โดย นางกัทรุ หนึ่งในบรรดาลูกสาวทั้ง13คนนั้นได้เป็นมารดาของนาคและงู1000ตัว ส่วน นางวินตา ผู้เป็นน้องก็ได้ให้กําเนิดไข่2ฟองซึ่งต้องใช้เวลาฟักนานมาก นางวินตา ทนรอไม่ไหวจึงทุบไข่ฟองนึงให้แตกเป็นตัวออกมา บุตรของ นางวินตา เมื่อออกมาแล้วปรากฎว่าเป็น ชายครึ่งนก แต่มีสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์เพราะออกมาจากไข่เร็วเกินไปดังนั้นบุตรชายครึ่ง นกก็กราบทูลพระมารดาว่า ให้รอไข่อีกฟองแตกตัวออกมาโดยวิธีธรรมชาติ ก็จะได้บุตรชายครึ่งนกที่มีสภาพร่างกายสมบูรณ์ จะมีบุญญาธิการและพละกําลังมหาศาลและจะคอยให้ความช่วยเหลือนางวินตาพ้นจาก ความทุกข์ทั้งปวง พอกล่าวจบบุตรครึ่งนกตนแรกก็บินจากนางไป และไปเป็นสารถีให้พระสุริยะเทพ และมีนามที่เรียกกันว่า อรุณเทพบุตร ซึ่งถือเป็นพี่ชายของพญาครุฑ
นาคและครุฑต่างเป็นสัตว์ที่คู่กันมาตามตํานาน มีเรื่องราวเล่ากันว่าในขณะที่พระพรหมกําลังสร้างโลกอยู่นั้น พระทักษะปชาบดีได้ยกลูกสาวทั้ง13คนให้ ฤาษีกัสยปะเทพบิดร และเกิดบุตรหลานเป็นจํานวนมาก โดย นางกัทรุ หนึ่งในบรรดาลูกสาวทั้ง13คนนั้นได้เป็นมารดาของนาคและงู1000ตัว ส่วน นางวินตา ผู้เป็นน้องก็ได้ให้กําเนิดไข่2ฟองซึ่งต้องใช้เวลาฟักนานมาก นางวินตา ทนรอไม่ไหวจึงทุบไข่ฟองนึงให้แตกเป็นตัวออกมา บุตรของ นางวินตา เมื่อออกมาแล้วปรากฎว่าเป็น ชายครึ่งนก แต่มีสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์เพราะออกมาจากไข่เร็วเกินไปดังนั้นบุตรชายครึ่ง นกก็กราบทูลพระมารดาว่า ให้รอไข่อีกฟองแตกตัวออกมาโดยวิธีธรรมชาติ ก็จะได้บุตรชายครึ่งนกที่มีสภาพร่างกายสมบูรณ์ จะมีบุญญาธิการและพละกําลังมหาศาลและจะคอยให้ความช่วยเหลือนางวินตาพ้นจาก ความทุกข์ทั้งปวง พอกล่าวจบบุตรครึ่งนกตนแรกก็บินจากนางไป และไปเป็นสารถีให้พระสุริยะเทพ และมีนามที่เรียกกันว่า อรุณเทพบุตร ซึ่งถือเป็นพี่ชายของพญาครุฑ
ต่อมานางกัทรุและนางวินตาได้พนันกันว่าม้าที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่เหล่าทวย
เทพและอสูรกวนน้ำอมฤต
ที่วิ่งไปวิ่งมาอยู่บนสวรรค์นั้นมีหางสีอะไรถ้าใครแพ้ก็ต้องเป็นข้ารับใช้
ตลอดไป นางวืนตาเลือกตอบว่าหางของม้านั้นเป็นสีขาว
ส่วนนางกัทรุนั้นได้ตอบว่าเป็นสีดําแต่จริงๆแล้วนางกัทรุได้รู้แจ้งอยู่แล้ว
ว่าหางของม้าเป็นสีขาวและนางกัทรุกลัวแพ้จึงได้คิดวางอุบายขึ้นโดยให้ลูกงู
ทั้ง1000ตัวนั้นเข้าไปพันอยู่รอบๆหางของม้าให้หางของม้าดูแลกลายเป็นสีดํา
และเมื่อม้าตัวนั้นวิ่งมาถึงนางทั้ง2ก็เห็นหางของม้าเป็นสีดํา นางวินตา
เลยจําต้องยอมแพ้และกลายเป็นข้ารับใช้ของนางกัทรุ
ในขณะนั้นเองไข่ฟองที่2ของนางวินตาก็ได้ฟักตัวออกมา เมื่อแรกเกิด ร่างกายขยายตัวออกใหญ่โตจนจดฟ้า ดวงตราเมื่อกระพริบเหมือนฟ้าแลบ เวลาขยับปีกใด บรรดาขุนเขาก็ตกใจต้องปลาดหนีไปพร้อมกับพระพาย รัศมีพวยพุ่งออกมาจากกายสว่างไสวเป็นที่อัศจรรย์ มีลักษณะดั่งไฟไหม้ไปทั่วทั้งสี่ทิศ กระทําให้ทวยเทพต้องตกใจ สําคัญว่าเป็นพระอัคนี ต่างพากันมาบูชา เพื่อขอความคุ้มครอง หลังจากนั้นก็ได้ออกบินไปตามหานางวินตาผู้เป็นมารดาจนพบ นางวินตาจึงเล่าเรื่องที่ถูกนางกัทรุใช้กลโกงในการพนันจนต้องมาเป็นทาสรับ ใช้ พอทราบเรื่องเข้าก็ทำให้บุตรชายครึ่งนกของนางวินตา รู้สึกโกรธแค้นนางกัทรุและนาคเป็นอันมาก จึงทําให้บุตรชายครึ่งนกของนางวินตาเป็นศัตรูกับพวกนาคและงูกันมาตลอดเจอกัน เมื่อไรเป็นต้องต่อสู้กัน แต่นางวินตาก็ได้ร้องขอและได้ห้ามไว้ไม่ให้ไปทำอะไรกับฝ่ายนางกัทรุและเหล่า นาคอีก เพราะต้องการรักษาคำพูดและรักษาสัตย์ที่ได้ตกลงกันไว้นั้น บุตรชายครึ่งนกของนางวินตาก็ยอมอยู่กับนางวินตาและยอมเป็นข้ารับใช้นางกัทรุ และบรรดาลูกๆของนางคือนาคกับงู 1000 ตัวด้วย
ในที่สุดบุตรชายครึ่งนกของนางวินตาได้เข้าไปเจรจาขอแลกอิสรภาพจากนางกัทรุ
และเหล่านาคให้แก่มารดาของตน
นางกัทรุจึงได้ขอแลกกับน้ำอมฤตเป็นการแลกกกับอิสระภาพของนางวินตา
บุตรนางวินตาจึงบินไปหาน้ำอมฤตในทันที
ในระหว่างทางก็ได้พบกับฤาษีกัสปะเทพบิดรผู้เป็นบิดา
ซึ่งได้แนะนำให้บุตรนางวินตาบินไปยังทะเลสาปแห่งหนึ่งและจับกินเต่ายักษ์และ
ช้างที่กำลังสู้กันเพื่อเพิ่มพลังในระหว่างการเดินทางไปหานําอมฤต
บุตรนางวินตาจึงได้จับสัตว์ทั้งสองกินแล้วออกบินต่อไป
พอมาถึงต้นไทรต้นหนึ่งก็ได้แวะลงไปเกาะที่กิ่งต้นไทร ต้นไทรนี้มีฤาษี
4ตนกำลังบำเพ็ญตบะอยู่ พอบินลงมาเกาะจึงทำให้กิ่งต้นไทรหัก
บุตรนางวินตาจึงจับกิ่งไม้นั้นไว้เพื่อไม่ให้ฤาษีทั้ง 4ตนตกลงไป ฤาษีทั้ง
4จึงเรียกบุตรนางวินตาว่า "ครุฑ" แปลว่า "ผู้แบก" หรือผู้ซึ่งยกของหนักได้
บุตรของนางวินตาจึงได้ชื่อว่า "พญาครุฑ" ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาในขณะนั้นเองไข่ฟองที่2ของนางวินตาก็ได้ฟักตัวออกมา เมื่อแรกเกิด ร่างกายขยายตัวออกใหญ่โตจนจดฟ้า ดวงตราเมื่อกระพริบเหมือนฟ้าแลบ เวลาขยับปีกใด บรรดาขุนเขาก็ตกใจต้องปลาดหนีไปพร้อมกับพระพาย รัศมีพวยพุ่งออกมาจากกายสว่างไสวเป็นที่อัศจรรย์ มีลักษณะดั่งไฟไหม้ไปทั่วทั้งสี่ทิศ กระทําให้ทวยเทพต้องตกใจ สําคัญว่าเป็นพระอัคนี ต่างพากันมาบูชา เพื่อขอความคุ้มครอง หลังจากนั้นก็ได้ออกบินไปตามหานางวินตาผู้เป็นมารดาจนพบ นางวินตาจึงเล่าเรื่องที่ถูกนางกัทรุใช้กลโกงในการพนันจนต้องมาเป็นทาสรับ ใช้ พอทราบเรื่องเข้าก็ทำให้บุตรชายครึ่งนกของนางวินตา รู้สึกโกรธแค้นนางกัทรุและนาคเป็นอันมาก จึงทําให้บุตรชายครึ่งนกของนางวินตาเป็นศัตรูกับพวกนาคและงูกันมาตลอดเจอกัน เมื่อไรเป็นต้องต่อสู้กัน แต่นางวินตาก็ได้ร้องขอและได้ห้ามไว้ไม่ให้ไปทำอะไรกับฝ่ายนางกัทรุและเหล่า นาคอีก เพราะต้องการรักษาคำพูดและรักษาสัตย์ที่ได้ตกลงกันไว้นั้น บุตรชายครึ่งนกของนางวินตาก็ยอมอยู่กับนางวินตาและยอมเป็นข้ารับใช้นางกัทรุ และบรรดาลูกๆของนางคือนาคกับงู 1000 ตัวด้วย
เมื่อข่าวเรื่องพญาครุฑจะมาขโมยน้ำอมฤตรู้ถึงพระอินทร์ พระอินทร์จึงสั่งเพิ่มเหล่าบรรดากำลังทหารสวรรค์ให้เข้มแข็ง โดยชั้นนอกให้เหล่าเทวดาสวรรค์และทูตสวรรค์รักษาไว้ ให้หม้อน้ำอมฤตอยู่ตรงกลางกงจักรที่มีงูยักษ์ 2ตัวหมุนกงจักรและจุดไฟล้อมรอบเอาไว้เพื่อป้องกันและขัดขวาง เมื่อพญาครุฑเดินทางมาถึงก็ได้ต่อสู้กับบรรดาเหล่ากองทัพทหารสวรรค์อย่างดุ เดือด และก็ใช้ปีกกระพือลมพัดเหล่าทหารเทวดาสวรรค์จนแตกพ่าย เหล่าบรรดาทหารสวรรค์ไม่สามารถต้านทานฤทธิ์เดชอํานาจของพญาครุฑได้จึงพ่าย แพ้และสูญสลายไปจนหมดสิ้น แล้วจึงบินพุ่งลงไปอมน้ำในมหาสมุทรมาพ่นดับไฟที่ ลุกอยู่ล้อมรอบกงจักรนั้นเสีย และกินงูที่กำลังหมุนกงจักรอยู่นั้นอีกด้วย แล้วจึงเข้าชิงนำน้ำอมฤตกลับมาไถ่ตัวมารดา พระอินทร์จึงเข้าขัดขวางจึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น พระอินทร์ใช้สายฟ้าฟาดเข้า ที่บริเวณปีกของพญาครุฑเข้าอย่างจังแต่สายฟ้าของพระอินทร์มิอาจทําอันตราย ต่อพญาครุฑได้เลย ในที่สุดพระอินทร์จึงยอมแพ้ต่อพญาครุฑ และพญาครุฑจึงได้มอบขนปีกให้กับพระอินทร์หนึ่งเส้นเพื่อเป็นเกียรติแก่พระ อินทร์ และนับจากนั้นมาพญาครุฑจึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ท้าวสุบรรณ"แปลว่า"ขนวิเศษ"
เรื่องราวการรบครั้งนั้นได้เลื่องลือล่วงรู้ไปถึงสามโลกธาตุ จนร้อนถึงพระ นารายณ์ต้องลงมาช่วยปราบ จนเกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือดระหว่างพระนารายณ์และพญาครุฑ ต่อสู้กันจนฟ้าลั่นแผ่นดินสะเทือนแต่ทั้งพระพระนารายณ์และพญาครุฑต่างก็ไม่ มีใครแพ้ใครชนะ ทั้งสองจึงยุติศึกและทำสัญญาเป็นไมตรีต่อกัน โดยพญาครุฑสัญญาที่จะรับเป็นพาหนะให้กับพระนารายณ์ตลอดไปและเป็นธงครุฑพ่าห์ สําหรับปักอยู่บนรถศึกของพระนารายณ์ ส่วนพระนารายณ์ก็ได้ให้พรความเป็น อมตะแก่พญาครุฑและไม่มีใครทำลายได้ เสร็จแล้วพญาครุฑจึงได้นำน้ำอมฤตไปไถ่ตัวนางวินตาผู้เป็นมารดาในเวลาต่อมา
ครุฑ เป็นสัตว์กึ่งโอปปาติกะ หรือกึ่งกายทิพย์กายสิทธิ์คล้าย ชาวลับแล และ พวกพญานาค อยู่อีกมิติหนึ่งจากโลกของเรา ผู้ที่สามารถจะพบเห็นพญาครุฑได้นั้นต้องเคยมีบุญร่วมกับเขามา จึงจะสามารถรับรู้ถึงกันและกันได้ เหมือนกับผู้ที่สามารถติดต่อกับพญานาคได้เช่นกันล้วนต้องเป็นผู้ที่มีบุญ วาสนาต่อกันมาตั้งแต่อดีตกาลทั้งนั้นไม่ใช่เรื่องสาธารณะที่จะรู้กันได้ทั่ว กันไปเช่นสามัญ
เรื่องของพญาครุฑเป็นเรื่องราวที่มีความอัศจรรย์ โลดโผนมาก แต่คนทั่วไปไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าใดนัก ความเป็นจริงแล้วเรื่องราวของพญาครุฑเป็นเรื่องที่น่าศึกษามากเพราะทางฮินดู เขานับถือครุฑว่าเป็นเทพเจ้าพระองค์หนึ่งเลยทีเดียว แม้แต่ในไทยของเราเอง ทางไสยศาสตร์ก็ให้ความนับถือเกี่ยวกับครุฑนี้มาก ดูอย่างตราประจําแผ่นดินเองก็มีลักษณะเป็น ครุฑ จึงน่าสนใจว่า ครุฑ นั้นมีอานุภาพบางอย่างและน่าจะเป็นสิ่งที่มีอยู่จริงในอีกมิติหนึ่ง
23 ความคิดเห็น:
เราจะรู้ได้อย่างไรว่ามีความเหมาะสมที่จะบูชาพญาครุฑหรืิอห้อยองค์พญาครุฑ
ที่ซ..อ่อนนุช 66กรุงเทพ มีตำหนักพญาครุฑและมี่การเข้าทรง ใครเคยไปบ้าง
ได้ยินว่า คนที่ทำงานเกี่ยวกับราชการ บูชาจะดีมากเพราะครุฑเป็นเครื่องหมายของข้าราชการ ครับ
ค่ะ แต่คน คนนั้นต้องเป็นคน มีศีล ซื่อสัตย์ มีจิตใจที่ดีงาม ไม่มีใจที่เป็นอกุศล รับรองคุณจะได้เห็นประสพการณ์ เร็วมาก 1-2 วัน
ขอบคุณครับ สำหรับความคิดเห็น
เคยค่ะ และไปมาครั้งแรก แต่ขอบอกว่า ที่สุดค่ะ
จะพึ่งสิ่งสักดิ์สิทิ์ ต้องทำตัวให้ศักดิ์สิทิ์ก่อน คิดดี พูดดี ทำดี หมั่นสร้างบุญกุศล
ผมเป็นร่างปู่เจ้าสมิงพรายครับ ผมสวดมนต์นั่งสมาธิทุกวัน ผมมีพระพิฆเณศวร์ พญาครุฑ ขุนแผน เป็นองค์เสริมครับ ปฏิบัติตัวให้ดีแล้วสิ่งศักดิ์สิทิ์จะคุ้มครองคุณเองครับ
ขอบคุณครับ.
เคยได้ยินมาว่า ถ้าดวงไม่แข็งพอ หรือ ดวงไม่ถึง ไม่ควรบูชาจริงไหมคะ
เคยได้ยินมาว่า ถ้าดวงไม่แข็งพอ หรือ ดวงไม่ถึง ไม่ควรบูชาจริงไหมคะ
ไม่จริง ครับ อยู่ที่ใจถ้าเราศรัทธา บูชาได้ครับ
พอจะทราบใหมคะที่อุดรตรงใหนมีให้บูชาบ้างคะ
มีคับ 0853116702
ผมอยากเบิกเนตร ผมมี 1 องค์ พอแนะนำใน กทม.แถวไหนได้บ้างครับ
ผมอยากเบิกเนตร ผมมี 1 องค์ พอแนะนำใน กทม.แถวไหนได้บ้างครับ
เกิดมาอายุ 27 ปี พึ่งฝันเห็นพญาครุฑค่ะ ฝันว่าพญาครุฑได้บินเฝ้าหน้าโบสถ์... เลยได้เหรียญตราครุฑมา 1 เหรียญ และองค์พญาครุฑ 1 องค์มาบูชา สาธุ
เราจะบอกว่า เราเก็บท่านไว้ในกล่องมิดชิดสนิทเลย
ฝันว่ามีพญาเสือดำเอาดาบสองอันมากรีดแขนทั้งสองข้าง
เจ็บมาก เราร้องไห้ จากนั้นเหมือนท่านจะเอาดาบมาสับที่
ไหล่เราให้ตายเลย โอยหน้ากลัวมาก มีไว้แล้วทำเล่นๆไม่ได้ ท่านมีจริง จากนั้นก็นำท่านไปไหว้หิ้งพระเลย พร้อมกล่าวขอขมาท่านทันที อีกองค์เราเก็บท่านมาไว้ที่ต่ำ จากนั้นก็ฝันเลยฝันว่าตัวเองกระโดดจากที่สูง ลงมายังที่ต่ำ จากนั้นก็นำท่านไปไว้หิ้งพระที่เดิม โอย ท่านมีจริง ศักดิ์สิทธิ์จริง ทำเล่นๆหัวๆไม่ได้ ชีวิตจะตกต่ำทันที
ตั้งแต่ท่านมาในชีวิตกลายเป็นคนใฝ่ธรรมะทันที อันนี้แปลกมากค่ะ
ห้อยพญาครุฑลอดราวตากผ้าเป็นไรไหม
ห้อยพญาครุฑลอดราวตากผ้าเป็นไรไหม
มีไห้บูชาที่ไหนบ้างคับ
มีรูปไหมคับ
แสดงความคิดเห็น