ผู้มีบุญ

วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

208 พญาเต่าเรือน

พญาเต่าเรือน

ขอบคุณข้อมูลจากศูนย์พระเครื่องพระบูชาออนไลน์

พญาเต่าเรือน เนื้อทองลูกบวบหล่อโบราณ ลงยันต์ อักขระพญาเรือนเต่า ด้านบนตรงกลางกระดองเป็นพระพิมพ์สมเด็จ รอบด้วยอักขระ ด้านล่างท้องเต่ายันต์ อักขระชัดเจน


       เครื่องรางของขลังนำมาจากเรื่องราวตำนานพระเจ้า 500 ชาติ พญาเต่าเรือน นับเป็นเครื่องรางที่เก่าแก่และได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเครื่องรางประเภทพญาเต่าเรือนนั้น มีทั้งยันต์ มีทั้งการหาซากเต่าที่แห้งตาย รวมไปถึงการสร้างพญาเต่าเรือนจากวัสดุต่างๆ ลงอาคมจนมีความขลังศักดิ์สิทธิ์เกิดขึ้น


       มีตำนานพญาเต่าเรือน กล่าวว่าพระพุทธเจ้าทรงเสวยชาติเป็นพญาเต่ามีร่างกายใหญ่มาก เท่าเรือนคนอยู่อาศัยได้ จำศิลอยู่ในเกาะแห่งหนึ่งมีอายุยืนนานมานับร้อยๆ ปี จนมาวันหนึ่งมีผู้คนเดินเรือสำเภาเพื่อไปทำการค้าขาย แต่เกิดพายุฝนอย่างหนักทำให้เรือแตกเสียหาย ผู้คนเหล่านั้นติดอยู่บนเกาะแห่งนี้เป็นเวลานาน จนกระทั่งอาหารบนเกาะมีน้อยลง ต่อมาด้วยความอดอยากทำให้คนบนเกาะหันมาฆ่ากันเพื่อเอาเนื้อหนังของอีกฝ่ายมากินประทังชีวิต พญาเต่าเรือนโพธิ์สัตว์ได้เห็นเหตุการณ์มาโดยตลอด เกิดความสลดสังเวชใจ และจิตปรารถนาจะช่วยเหลือ เพื่อสืบสานบารมีแห่งพระโพธิญาณ พญาเต่าเรือนได้ไต่ขึ้นไปบนยอดเขา จากนั้นได้กลิ้งตัวเองลงมาทำให้กระดองที่หุ้มตัวแตกออก เนื้อหนังฉีกเป็นชิ้นๆ และสิ้นใจลง และยังได้นำเอากระดองของเต่าเรือนที่มรขนาดใหญ่มากมาทำเป็นเรือเดินทางในทะเลจนกระทั่งกลับถึงบ้านไปพบหน้าลูกเมียของตนได้ ชาวเรือเหล่านั้นได้ระลึกถึงพระคุณของพญาเต่าเรือนจึงได้วาดภาพแล้วสักการะบูชาเพื่อเป็นสิริมงคล







           จากเรื่องราวตามตำนานดังกล่าว ทำให้ในกาลต่อมามีการคิดประดิษฐ์เลขยันต์คาถาอาคม เครื่องรางของขลังในลักษณะของเต่าเรือนมา ด้วยเชื่อกันว่าทำให้ทำมาค้าขายดี
    


           การบูชาพญาเต่าเรือนนั้น ท่านว่าให้จุดธูป 3 ดอก แล้วระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยเป็นสิ่งศักดิ์สิทธ์สูงสุดในจักรวาล  และในชาติหนึ่งขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น พระองค์เคยเสวยชาติเป็นพญาเต่าเรือน ได้สละเลือดเนื้อชีวิตเพื่อเป็นทานแก่สัตว์ผู้ยาก เป็นพระโพธิสัตว์องค์ประเสริฐด้วยบารมีอันยิ่งยากที่ผู้ใดจะสามารถเสียสละดังนี้ได้ จึงนับเป็นมหากุศลน้อมนำมาเป็นบุญบารมี เพื่อความสุขความเจริญในชีวิตของเราได้ เมื่อได้อธิษฐานจิตดังนี้แล้ว เชื่อว่าจะบังเกิดความสุขความเจริญทำมาค้าขายดี



          สำหรับการตั้งบูชาพญาเต่าเรือนนั้น ท่านว่าให้ตั้งไว้สูงกว่าเทพดาทั่ว ๆ ไป เพราะพญาเต่าเรือนเป็นพระโพธิสัตว์และเป็นชาติหนึ่งของพระพุทธเจ้า แต่ต้องต่ำกว่าพระพุทธธูป การบูชานั้นหลายๆ ที่มักนำน้ำมาหล่อเอาไว้ พร้อมทั้งมีผักบุ้งลอยเอาไว้ หรือดอกมะลิ กลีบกุหลาบลอยไว้ด้วย คอยเติมน้ำให้เต็มเสมอๆ เพราะเชื่อกันว่า หากน้ำลดจะทำให้โชคลาภหดเหือดหายตามไปด้วย และต้องทำน้ำให้สะอาดเสมอๆ จะได้มีความสอใสและชุ่มเย็นในชีวิต ถ้าเป็นพญาเต่าเรือนขนาดเล็ก บางคนถือเคล็ดเอาไว้ในที่เก็บเงิน หรือตั้งไว้ที่ตู้เซฟ ส่วนคาถาบูชา 

 “ นาสังสิโม สังสิโมนา โมนาสังสิ “







เป็นพระคาถาที่เชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์มาก และจากคาถานี้   ครูบาอาจารย์นำมาเขียนลงในช่องตารางที่มีลักษณะคล้ายกระดองเต่า เติมหัวเติมหางลงไป จนเป็นภาพเต่าขึ้นมา ถือกันว่าเป็นพระยันต์เป็นพญาเต่าเรือนน้อยเต่าเรือนใหญ่ ที่มีอานุภาพในการระงับคดีความ ซึ่งครูบาอาจารย์เล่าว่าหากเกิดคดีความอันเป็นการใส่ร้ายป้ายสี ให้ทำการท่องพระคาถาพญาเต่าเรือนและบูชาพญาเต่าเรือน โทษทัณฑ์ที่มีอยู่คดีความที่มีกำลังเป็นปัญหา ก็จะสูญสิ้นไปเป็นอัศจรรย์  และด้วยอานุภาพนี้   จึงเรียพญาเต่าเรือนอีกนัยหนึ่งว่า พญาเต่าเรือน ซึ่งหมายถึง การลบเลือนคดีความที่มีอยู่นั่นเอง การทำวัตถุมงคลพญาเต่าเรือนก็จะทำการปั้นหุ่นทั้งจากดิน จากปูน  หรือหล่อโลหะเป็นรูปเต่า ที่กระดองจะลงอักระคาถาเอาไว้ รวมทั้งที่ใต้ท้องเต่าเรือนด้วย ถ้าเป็นผง  ครูบาอาจารย์จะหาว่านเต่านำโชค  ซึ่งถือว่าเป็นว่านที่มีฤทธิ์ทั้งทางโชคลาภและคงกระพันในตัวมาเป็นมวลสารสำคัญ จากนั้นทำการปลุกเสกจนกระทั่งเต่าเรือนนั้นเคลื่อนตัวได้ท่านว่าเต่าเรือนกล่าวจะมีอานุภาพทางเมตตามหานิยม  และนำพาโชคลาภได้ดีที่สุด  ครูบาอาจารย์บางท่านมีการใช้วิชาพญาเต่าเรือนอีกรูปแบบหนึ่ง  เรียกกัน  วิชาพญาเต่าดำ  นอกจากนี้ยังมีวิชาเต่าเงินเต่าทอง  ซึ่งเป็นสายวิชาทางพญาเต่าเรือนด้วยกันทั้งสิ้น มีอานุภาพสำคัญทางด้านโชคลาภ เมตตามหานิยมแต่ต้องมีพญาเต่าอยู่คู่กัน ตัวหนึ่งเป็นเต่าเงินตัวหนึ่งเป็นเต่าทอง  ถือว่าเป็นของขลังประจำบ้านหรือร้านค้าได้อย่างดีอีกชนิดหนึ่งเช่นกัน การ


อาราธนาพญาเต่าเรือนนั้นผู้ที่พกพาหรือบูชาควรหมั่นทำการฝึกฝนสมาธิจิตด้วย เพราะหากทำสมาธิจิตดี ย่อมทำให้การท่องคาถาพญาเต่าเรือนมีความขลังความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้นผู้ที่หมั่นฝึกภาวนาท่องพระคาถาพญาเต่าเรือนจนได้สมาธิชั้นสูงนั้น ท่านว่าขนาดยื่นมือไปตบหัวเด็ก  เด็กยังไม่โกรธเลย   และแน่นอนว่าหากภาวนาคาถานี้เป็นอารมณ์ในใจเสมอๆ   บุคคลผู้นั้นย่อมเป็นเมตตามหานิยมอย่างสูงส่ง   และมีโชคลาภไม่ขาดสายโดยไม่ต้องสงสัยเลย  เพราะหากใครก็ตามที่มีวัตถุมงคลพญาเต่าเรือนบูชาประกอบกับการท่องพระคาถาเป็นประจำเสมอๆ   อยู่แล้ว  ย่อมเกิดฤทธ์ทางเมตตามหานิยมสูงส่งมีโชคลาภถึงขนาดที่ว่า ยาจกกลายเป็นเศรษฐีได้   เพราะเรืองของอำนาจจิตผนวกกับอำนาจของคุณพระรัตนตรัยและคุณพระโพธิสัตว์พญาเต่าเรือนนั้น ย่อมเป็นพลังงานที่มีอานุภาพมหาศาลสามารถเปลี่ยนวิถีชีวิตภูมิชีวิตของผู้ศรัทธาได้อย่างน่าอัศจรรย์  แต่ทั้งนี้บุคคลผู้นั้นต้องมีศรัทธาอย่างแน่วแน่ในความศักดิ์สิทธิ์ถึงจะได้ผล





ด้านหลังมีพระพิมพ์สมเด็จ




















ไม่มีความคิดเห็น: